โฆษณาชวนเชื่อ ให้ตัวเอง

มีใครเคยโฆษณาชวนเชื่อกับตัวเองไหมคะ

ตอนวัยรุ่นแม้กระทั่งถึงตอนนี้ ฉันมักจะสงสัยว่าทำไมน้า เวลาดูหรือฟังอะไรซ้ำๆ จะทำให้เราจากที่ไม่เชื่อ กลายเป็นกลืนกินเป็นความเชื่อของตัวเราเองได้ มันคงเป็นกลไกทางสมองและจิต ที่คงต้องไปค้นคว้าข้อมูลทางจิตวิทยาเพิ่มเติมเพื่อหาคำตอบนี้

ที่นึกถึงการโฆษณาชวนเชื่อขึ้นมา ก็เพราะว่า เมื่อวานฉันได้คุยกับเพื่อนคนหนึ่ง คุยสัพเพเหระ จนมาถึงเรื่องการกินคอลลาเจน ฉันกับเพื่อนเรียกได้ว่าเป็นสาวกของแบรนด์ๆหนึ่งซึ่งเป็นของญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน และเพื่อนก็ซื้อให้แม่กินด้วย เพื่อนเล่าว่า พ่อแม่ชอบดูทีวีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่องทีวีช้อปปิ้ง ไม่ทำอะไรก็เปิดทิ้งไว้เป็นเพื่อน ไม่ให้บ้านเงียบ มีวันหนึ่งแม่ของเพื่อนก็รำพึงว่า เนี่ยแม่ว่าคอลลาเจนที่โฆษณาเนี่ย แม่ว่ามันจะไม่น่าจะดีเท่ากับยี่ห้อที่เรากินกันหรอก ถึงบอกว่าผลิตในญี่ปุ่นเหมือนกัน แต่ราคาถูกกว่าเยอะ ไม่น่าจะใช่ของดีหรอก

ผ่านไป 3-4 เดือน แม่ของเพื่อนบอกว่า แม่ว่าลองสั่งคอลลาเจนเจ้านี้มาลองกินดูมั้ย ผลิตในญี่ปุ่นเหมือนกัน ถูกกว่าด้วย ลองสั่งมาสัก 2-3 กระป๋องดู ถ้ามันดีเราก็จะได้ของดีด้วย ถูกกว่าด้วย แต่เพื่อนซึ่งไม่ค่อยได้ดูทีวี บอกว่าแม่ หนูลองมาหลายยี่ห้อละ หนูว่ายี่ห้อที่เรากินอยู่เวิร์คสุดแล้ว อย่าเปลี่ยนเลย (เพื่อนเบรคสุดฤทธิ์ 555)

เหตุการณ์แบบนี้คุ้นๆใช่ไหมคะ^^ ฉันเองก็เห็นพลังของโฆษณาชวนเชื่อ ที่มาแบบซ้ำๆบ่อยๆ และก็เป็นเหยื่อของการโฆษณามานักต่อนัก ก็เลยมานั่งคิดว่า งั้นเรามาโฆษณาชวนเชื่อให้ตัวเองมั่งดีกว่า ฉันซึ่งไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองเท่าไหร่ แถมขึ้กังวล ไม่ค่อยมีความสุขเท่าที่ควร เลยลองบอกตัวเองบ่อยๆว่าฉันเป็นคนมั่นใจในตัวเอง ฉันเป็นคนมีความสุข มองโลกในแง่ดี และขณะที่พูดฉันก็ทำความรู้สึกตามคำพูดนั้นไปด้วย คือทำความรู้สึกเชื่อมั่นในตัวเอง จิตใจเต็มอิ่ม มองแง่งามของทุกสิ่ง และรู้สึกมีความสุข ณ ขณะนั้นจริงๆ ผ่านไป 3-4 เดือน ฉันรู้สึกว่าฉันมั่นใจตัวเองมากขึ้น มองโลกในแง่บวกมากขึ้น และมีความสุขมากขึ้นโดยอัตโนมัติ โอ้โหเฮะ ได้ผลจริงๆด้วย

แต่…การโฆษณาซ้ำๆบ่อยๆมันก็เป็นแค่เครื่องมือคอยรับใช้ความเชื่อเท่านั้น ถ้าเราสร้างความเชื่อผิดๆ ผลมันก็จะน่ากลัวมาก เพราะมันจะแทรกซึมเข้าไปจนเป็นส่วนหนึ่งของความเชื่อเราโดยเราไม่รู้ตัวเลย เหมือนปัจจุบัน ฉันเห็นสำนักข่าวหลายสำนักมากตามสื่อต่างๆ ที่ใช้หลักการโฆษณาชวนเชื่อมาใช้ และใช้ความคิดเห็นของตัวเองมาใส่ในข่าว (จนมีfactน้อยหรือหาไม่เจอกันเลยทีเดียว) สร้างคนๆหนึ่งให้กลายเป็นปีศาจแสนชั่ว และปั้นคนๆหนึ่งให้กลายเป็นคนดีแสนดี เก่งแสนเก่ง ได้ ทั้งๆที่ความจริงมันอาจจะตรง หรือ ตรงกันข้ามกับภาพที่บรรดาสำนักข่าวต่างๆสร้างไว้

ในความเห็นของฉัน ฉันว่าเราควรเสพข่าวให้น้อยๆหน่อย แล้วมุ่งมาพัฒนาตัวเองดีกว่า เพราะพอเสพข่าวมากๆ ฉันสังเกตว่า จิตใจหดหู่ หม่นหมอง เกลียดชัง โกรธแค้น ความสุขในชีวิตน้อยลง แถมปากจัดขึ้น (555) หลังๆฉันเลยเสพข่าวน้อยลง เพราะไม่อยากเพาะความเกลียด การตัดสินคนอื่น การมุ่งจับผิด (ไม่มุ่งจับถูก)ของคนอื่น ซึ่งฉันกลัวว่ามันจะทำให้ฉันเชี่ยวชาญในการคิดลบมากขึ้นๆ ฉันว่ามันน่ากลัวมาก เพราะฉันเคยตกอยู่ในวังวนความคิดลบ และเข้าใจเลยว่าทำไมคนเดี๋ยวนี้ถึงเป็นภาวะซึมเศร้ากันมาก เพราะการคิดลบที่เกิดขึ้น มันไม่ใช่แค่ความคิดลบต่อคนอื่น แต่มันถึงกับคิดลบกับตัวเอง ไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเอาเลย บางคนถึงกับอยากหนึไปจากโลกก็เพราะรู้สึกตัวเองไม่มีคุณค่า ไม่รู้จะอยู้ไปทำไม อยู่เพื่ออะไร อันนี้น่ากลัวขั้นสุด

วันนี้ฉันดูมีสาระจัง(นานๆจะมีกับเค้าสักที 555) เอาเป็นว่าอยากชักชวนให้มาโฆษณาชวนเชื่อกับตัวเองในแง่ที่จะทำให้ชีวิตของเราพัฒนาขึ้น และมีความสุขขึ้นดีกว่านะคะ^^