วาสนารัก

เชื่อเรื่องวาสนากันไหมคะ แต่ก่อนฉันก็เชื่อเบาๆ แต่ยิ่งอายุมากขึ้น ก็ยิ่งเชื่อเพราะสิ่งที่พานพบมา ยืนยันให้เห็นอย่างนั้น วันนี้ก็จะมาเล่าเรื่องราวของสองหนุ่มสาวที่เป็นตัวอย่างของวาสนาที่แตกต่างกันให้ฟังค่ะ

อันนี้เป็นเรื่องราวของเพื่อนของเพื่อนสนิทฉันเองค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า เพชร กับวาว เป็นสองสาวลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกัน ชนิดไปไหนไปกันเป็นทั้งญาติเป็นทั้งเพื่อน พอเป็นสาวจบมัธยมปลายก็ออกจากโรงเรียนไม่ได้เรียนต่อ แต่ไปเรียนเรื่องการตัดเย็บเสื้อผ้า เพราะชอบเรื่องผ้าทั้งคู่ค่ะ สาวเพชรนั้นเป็นคนชอบทำแพทเทิร์น ส่วนสาววาวชอบลงมือตัดเย็บ ไม่ชอบการทำแพทเทิร์นอย่างมาก จึงไม่ยอมเรียนรู้เลย สองสาวเรียนไม่นานก็จบตามหลักสูตร ออกไปทำงานเสื้อผ้าตามแบบที่ตัวเองถนัด

ตัดมาที่อีกสองหนุ่ม เป็นเพื่อนรักเพื่อนซี้กันมากชื่อหนุ่มกับปอง สองหนุ่มนี้พอเรียนจบมัธยมก็มาฝึกงานตามอู่รถยนต์ เพราะชอบเรื่องเครื่องยนต์ทั้งคู่ หนุ่มนั้นมาจีบสาวเพชร ส่วนหนุ่มปองติดร่างแหไปเที่ยวไปไหนมาไหนด้วยก็เลยจีบสาววาว ซึ่งก็มักติดไปด้วยกับคู่ของหนุ่มกับเพชรเหมือนกัน ในที่สุดทั้งสองคู่ก็แต่งงานอยู่กินกันไป แยกย้ายกันสร้างครอบครัวของตัวเอง แต่ก็ยังไปมาหาสู่กันตามปกติ

เวลาผ่านไปๆ คู่หนุ่มกับเพชรนั้นกิจการงานก็เจริญรุ่งเรืองอย่างมากๆ หนุ่มนั้นถนัดเรื่องการทำสีรถ หลังจากเป็นลูกจ้างจนมีความชำนาญงาน ก็เริ่มออกมาตั้งอู่ทำสีของตัวเอง ส่วนเพชรนั้นก็รับทำแพทเทิร์น เปิดร้านของตัวเองและจ้างลูกจ้างมาเย็บเสื้อผ้า สองผัวเมียขยันขันแข็งช่วยกันทำมาหากิน จนฐานะเริ่มมั่นคงขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาหนุ่มได้ไปดีลงานกับบริษัทประกันภัย งานเริ่มเยอะมากขึ้น อู่ยิ่งขยายใหญ่มากขึ้น มีลูกน้องมากมาย การเงินก็มั่นคงยิ่งขึ้น จนสามารถส่งเสียลูกสาวเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกาได้อย่างสบาย เรียกได้ว่าร่ำรวยกันเลยทีเดียว มีบ้านใหญ่โตหลายหลังและรถหลายคันเลยค่ะ

ส่วนคู่ของวาวกับปองนั้น เมื่อแต่งงานกันทั้งคู่ก็ขยันขันแข็งทำมาหากินเช่นกัน วาวนั้นรับจ้างตัดเย็บเสื้อผ้าที่บ้าน ส่วนปองนั้นก็รับซ่อมรถ งานของทั้งคู่อยู่ในระดับที่พอไปได้ แต่ก็ไม่ได้มีเงินเก็บมากมายอะไร ส่วนลูกสาวเมื่อจบมัธยมแล้ว ก็เรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่ง จนตอนนี้เรียนใกล้จบแล้ว ปองนั้นแม้ว่าจะมีฝีมือดี มีลูกค้าประจำ แต่กิจการก็กลับไม่รุ่งเรืองเท่าที่ควร ฉันเคยเอารถไปซ่อมกับปอง ปองคือเป็นคนทำงานละเอียด และมีความซื่อสัตย์ คือพยายามช่วยลูกค้าเซฟค่าใช้จ่าย และพูดจาตรงไปตรงมา ซ่อมได้ก็ซ่อม ซ่อมไม่ได้จริงๆถึงจะบอกลูกค้าว่าต้องเปลี่ยนแล้ว ปัจจุบันนี้ปองต้องเช่าที่เล็กๆซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอู่ทำสีที่ใหญ่โตของหนุ่ม ทำเป็นอู่ซ่อมเล็กๆ(เล็กจริงๆ) และวาวนั้นก็รับจ้างซ่อมเสื้อผ้าเล็กๆน้อยๆ พอเป็นค่าเหนื่อย การเป็นอยู่ถือว่าไม่ถึงกับขัดสน แต่ก็ยังไม่ได้สบาย มีบ้านทาวเฮาส์เล็กๆและมอเตอร์ไซค์หนึ่งคัน

จากชีวิตของสองหนุ่มสาว เป็นแค่ตัวอย่างเล็กๆตัวอย่างหนึ่ง ขนาดตอนต้นชีวิตนั้น ชีวิตเหมือนกันมากๆเรียกได้ว่าตีคู่กันมาทัังฝ่ายชาย ฝ่ายหญิง แต่สายลมแห่งโชคชะตา วาสนาเดิม และวาสนาใหม่ที่ลงมือทำ บวกรวมๆกันแล้วทำให้ชีวิตต่างกันมากเลย แต่ข้อดีของคู่ปองกับวาว คือไม่เปรียบเทียบกับครอบครัวเพื่อนสนิทค่ะ พอใจในสิ่งที่มีที่เป็น ก็เลยเป็นครอบครัวที่อบอุ่น มีความสุขค่ะ ในทางกลับกันถ้าคู่นี้เป็นคู่ที่ไม่รู้จักพอ และนึกเปรียบเทียบกับอีกคู่หนึ่งตลอดเวลา คงเหมือนถูกไฟเผาลนใจพอสมควร ความ”พอ”นี่ทำให้คนมีความสุขได้กับความจริง จริงๆเลย