เคยถูกประเมินแบบ 360 องศากันไหมคะ
ฉันเป็นคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการประเมินที่เรียกว่าประเมินแบบ 360 องศา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหารที่เลือกเอาวิธีนี้มาประเมิน โดยไม่ได้รู้อะไรจริง ไม่รู้ข้อจำกัดหรือข้อด้อยของการประเมินแบบนี้
ต้องบอกก่อนว่าฉันไม่ได้ทำงานในแผนกทรัพยากรมนุษย์ แต่ฉันถูกประเมินด้วยวิธีนี้ ฉันไม่ขอเล่าเรื่องของฉันเพราะฉันไม่เห็นผลประเมินของตัวเองที่คนอื่นประเมิน รู้แต่ว่าผ่าน (เขาไม่ให้ดู เพราะให้คนเก่าก่อนหน้าฉันดู แล้วโดนแยัง เลยไม่ให้คนต่อมาคือฉันดู)แต่ขอเล่าของพี่ที่เคยทำงานในตำแหน่งเดียวกันที่เดียวกันกับฉัน (แต่ออกไปก่อน ฉันมาแทนเขา)ที่ถูกประเมินด้วยวิธีนี้
พี่คนนี้ทำงานมาครบ 4 เดือนผู้บริหารก็เรียกไปพบเพื่อคุยผลประเมิน และให้ดูผลการประเมินโดยพนักงานคนอื่นๆทั้งแผนกเดียวกันและต่างแผนก ตำแหน่งระดับเดียวกัน เหนือกว่า และน้อยกว่า ซึ่งมีการประเมินตั้งแต่วินัยต่างๆในบริษัท จนไปถึงการทำงาน
ที่เป็นผลชัดเจนและบอกความโหลยโท่ยมากของการนำการประเมินแบบนี้มาใช้ในบริษัทนี้ ขอยกตัวอย่่างนี้ คือหัวข้อการเข้างานตรงเวลา พี่คนนี้ได้รับการประเมิน 7 เต็ม 10 แกก็งงว่าแกก็สแกนบัตร ไม่เคยสาย ผลการสแกนก็ออกมาว่าไม่เคยสาย ทำไมได้ 7 แกเลยขอดูแบบประเมินที่แต่ละคนทำ เพราะอันนี้ชัดเจนมาก ปรากฏว่าผลหลากหลายมาก ลงคะแนนให้แก มีทั้งสายเป็นบางครั้ง สายบ่อย ไม่เคยสาย ประเมินโดยคนที่ทำงานคนละฟลอร์ด้วยซ้ำ วันๆเห็นกันแค่ตอนกินข้าว (…จะบ้าตาย) ขนาดหัวข้อที่มีหลักฐานยืนยันมาแก้ต่างได้ยังบ้าบอขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงหัวข้ออื่นนะคะ ว่าจะบ้าบอขนาดไหน และในหัวข้อการประเมินการทำงานก็มีทั้งให้ลูกน้องประเมิน และต่างแผนกประเมิน (ที่แทบไม่เคยประสานงานกันเลย) ผลออกมาแกก็ผ่านล่ะค่ะ แม้ผลประเมินผ่านแต่คะแนนก็ออกมาแปลกๆ แต่แกก็โนสนโนแคร์ เพราะแกก็ทนวัฒนธรรมองค์กรที่นี่ไม่ไหวเหมือนกัน แกกำลังจะยื่นใบลาออกพอดี (จริงๆแกเป็นคนมีฝีมือนะคะ คนในวงการรู้กันดีว่าแกเป็นคนทำงานเก่ง)
การประเมินแบบนี้ เท่าที่ฉัน”รู้สึกและคิด” โดยไม่ได้มีความรู้ด้านนี้นัก ฉันว่ามันมีโอกาสbias สูงมาก และคนที่จะทำแบบประเมินคนอื่น ควรมีความmature มีอีคิวที่ดี และรอบรู้เรื่องงาน รวมถึงต้องชัดเจนในเป้าหมายบริษัท เป้าหมายแผนก รวมถึงเป้าหมายตำแหน่งที่ถูกประเมินให้ชัด และฝ่ายทรัพยากรมนุษย์จะต้องรู้จริงในเรื่องนี้ รวมถึงต้องปรับให้เข้ากับบริบทของบริษัทนั้นๆ
ส่วนบริษัทนี้วัฒนธรรมองค์กรเป็นปัญหามาก เพราะใช้อารมณ์ความรู้สึกตัดสิน ไม่มีอะไรชัดเจนตั้งแต่เป้าหมายบริษัทลงมาเลย ผู้บริหารก็ฟังแต่คนเก่าที่อยู่กันมานาน (เพราะฉะนั้นคนใหม่จะเข้า ออกตลอด) และมีแค่สองระดับเท่านั้น คือ senior manager และ ก็จะเป็นระดับปฏิบัติการเลย แล้วคิดดูสิคะการใช้การประเมินแบบนี้กับที่นี่ จะเกิดอะไรขึ้น
ฉันว่าอะไรหลายอย่างที่เราไม่รู้ แต่เราฟังว่ามันเก๋ดี เลยหยิบมาใช้แบบงูๆปลาๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่มันมีผลกระทบต่อคนอื่น มันจะเดือดร้อนคนอื่นเอานะคะ เหมือนการประเมินแบบนี้ที่ฉันเล่าแหละค่ะ (วันนี้พูดรุนแรงไปหน่อยนะคะ^^)