พลังยิ้มมม

การยิ้มมันมีพลังดึงดูดนะคะ

ฉันเป็นคนที่ยิ้มฟุ่มเฟือยมาก (อดีตเพื่อนร่วมงานเคยคอมเมนต์แบบนี้ และแถมด้วยว่า คุณยิ้มให้เขาไปหมด มันเลยดูไม่ค่อยมีคุณค่า อุ่ย! ขนาดนั้นเลยหรือ) เป็นคนยิ้มง่ายตั้งแต่เด็ก และพี่น้องก็เป็นแบบนี้ทุกคน

หลายๆครั้งฉันก็พบว่าพอส่งยิ้มให้คนที่มีปฏิสัมพันธ์ ก็พบว่าหลายๆคนที่ไม่คาดคิดว่าฉันจะยิ้มให้เขา เช่นเมื่อได้รับบริการต่างๆ หรือติดต่อโน่นนี่ เขาจะรีบกระตุกยิ้มตอบ (ที่บอกว่ากระตุกเพราะพอเขาเงยหน้าขึ้นมาด้วยใบหน้าเฉยๆ พอเห็นฉันยิ้มให้เขาจะรีบยิ้ม มันก็เป็นภาพที่ฉันแอบขำเหมือนกัน แต่ก็รู้สึกดีที่เขาก็ยิ้มตอบกลับมา) ฉันก็เลยว่ายิ้มนี้เป็นแรงดึงดูดและเป็นการติดต่อกันได้เหมือนการหาวเลย แต่บางคนจิตแข็งมากเลย หน้าบึ้งเท่าเดิม อาจเพราะแรงดึงดูดของยิ้มฉันไม่มากพอ^^ แต่ฉันคิดว่าอย่างน้อยในใจเขาต้องคลายความบึ้งตึงลงไปบ้าง

ฉันว่าแต่ละคนมีอิทธิพลจากการยิ้มไม่เท่ากัน อย่างตัวฉันเอง ถ้าเจ้านายยิ้มให้ หรือหมอที่ตรวจยิ้มให้ โอ้โห กำลังใจมาจากไหนไม่รู้ มันเหมือนอากาศตรงนั้นมีออกซิเจนเต็มไปหมด จากหดหู่ กังวล กลายเป็นปากก็ยิ้ม ใจก็ยิ้มเลย

ขอนอกเรื่องนิดหนึ่งค่ะ พอดีนึกได้เกี่ยวกับคุณหมอ ขอเล่าเรื่องหนึ่งที่ประทับใจมากๆให้ฟังค่ะ มีครั้งหนึ่งฉันไปตรวจเต้านมประจำปีกับหมอศัลยกรรมมะเร็งท่านหนึ่ง ซึ่งตรวจเป็นประจำมาเป็นสิบปี คุณหมอเป็นคนอารมณ์ดีมาก ใจดี ยิ้มง่าย แต่ก่อนคุณหมอจะคุยเก่ง แต่เดี๋ยวนี้คุณหมอตรวจพร้อมกัน 4 ห้อง เข้าห้องโน้น ออกห้องนี้ การคุยกับคนไข้ก็เลยลดลง แต่ความใจดียังคงอยู่ ฉันนอนบนเตียงในห้องหนึ่ง ได้ยินเสียงคุณหมอคุยกับคนไข้ห้องข้างๆ(ซึ่งฟังจากเสียงที่คุยกับคุณหมอ น่าจะอายุประมาณ 30-35 เพราะว่าที่รอกันอยู่หน้าห้องตรวจ คนนี้ถูกเรียกเข้าห้องตรวจก่อนฉันนิดนึง เลยคาดว่าเป็นคนนี้) ว่า ผลชิ้นเนื้อมันออกมา มันก็เป็นล่ะนะ แต่ก็แค่เป็นขั้นแรกเท่านั้น จากประสบการณ์ของหมอ มันขี้ปะติ๋วมาก ขอให้เชื่อหมอ มันรักษาได้ ไม่ต้องกังวลนะ สบ้ายย น้ำเสียงใจดี บวกขี้เล่นนิดๆ ทำให้ฉันนึกหน้าคุณหมอออกเลย ว่าคงพูดไปยิ้มไป เหมือนทุกครั้งแน่นอน เสียงคนไข้ที่ถามการรักษากับหมอ เป็นเสียงที่ปกติเลย ไม่เหมือนคนได้รับข่าวไม่ค่อยดีเลย ฉันที่ฟังอยู่ รู้สึกเหมือนหมอเป็นเทวดาในร่างมนุษย์เลย ช่างเมตตากับคนไข้มาก ขนาดข่าวแบบนี้ ยังพูดให้คนไข้รู้สึกดี มีกำลังใจมาเต็มได้เลย เป็นการสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ป่วยทั้งกำลังกาย กำลังใจ อย่างแท้จริง อาชีพคุณหมอนี่สามารถสร้างบุญ สร้างกุศลได้ตลอดเวลาจริงๆเลย ขออนุโมทนาบุญกับคุณหมอทุกท่านด้วยนะคะ^^

กลับมาเรื่องยิ้มกันต่อ นอกจากเรื่องว่าใครเป็นผู้ยิ้มแล้ว ฉันว่ายังมีเรื่องของจิตใจภายใต้การยิ้มด้วยค่ะ ที่ส่งผลต่อผู้รับยิ้ม ฉันสังเกตว่า หลายครั้งๆฉันก็ยิ้มไปตามความเคยชิน หลายๆครั้งก็ยิ้มตามมารยาท และอีกหลายๆครั้งก็ยิ้มเอาใจ อยากให้คนอื่นยอมรับ และก็มีเวลาที่ฉันยิ้มจากใจจริงๆ ซึ่งใจภายใต้การยิ้มแต่ละครั้งไม่เหมือนกัน ดีกรีความสบายใจ ความเบิกบานใจก็แตกต่างกัน นี่เองคงเป็นพลังที่ส่งต่อไปยังผู้รับแตกต่างกัน ปฏิกิริยาตอบรับของเขาก็เลยแตกต่างกัน ต่อไปฉันตั้งใจว่าจะพยายามยิ้มทั้งใจทั้งกายให้มากขึ้นค่ะ

ฉันเขียนเรื่องนี้ เพราะรู้สึกว่าผู้คนเดี๋ยวนี้เครียดขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะเลย เลยอยากให้ทุกคนยิ้มให้แก่กัน และจะดียิ่งขึ้นถ้าเรายิ้มทั้งใจและใบหน้า เพราะอย่างน้อยตัวเราเองก็จะรู้สึกผ่อนคลายลงบ้างแน่นอน และส่งบรรยากาศดีๆให้แก่คนรอบข้างได้ด้วย มายิ้มกันให้เยอะๆขึ้นนะคะ โลกจะไดัเต็มด้วยพลังบวกเยอะๆๆๆค่ะ^^