ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าขาดเธอ

วันนี้มีเรื่องราวของน้องคนหนึ่ง มาเล่าให้ฟังค่ะ น้องสาวคนนี้ชื่อน้องมะเหมี่ยวค่ะ น้องเป็นเด็กที่พ่อแม่หย่าร้างกันตั้งแต่อายุ 6-7 ขวบ มะเหมี่ยวได้อยู่กับแม่เพราะแม่ไม่ได้แต่งงานใหม่ ส่วนพ่อไปมีครอบครัวใหม่ ช่วงเวลาที่อยู่กับแม่ มะเหมี่ยวมักน้อยใจและคิดอยู่เสมอว่าแม่รักพี่สาวกับน้องชายมากกว่า ตัวเองเป็นคนกลางที่เหมือนหมาหัวเน่ายังไงไม่รู้ เมื่อเริ่มโตขึ้นประมาณ 10 ขวบ เธอก็อยากไปอยู่กับพ่อ เพราะพ่อเป็นทหารอยู่ต่างจังหวัด ส่วนแม่ใหม่อยู่กรุงเทพ ถ้าอยู่กับพ่อ ก็จะได้อยู่กับพ่อกันแค่ 2 คน ไม่มีพี่น้องคนอื่น จะได้เป็นลูกคนเดียวของพ่อในบ้าน เธอเลยแอบติดต่อให้พ่อมารับไปอยู่ด้วย พ่อก็เลยมารับไปอยู่ด้วยกันที่ต่างจังหวัด โดยเธอไม่เคยติดต่อแม่อีกเลย มีแต่พ่อที่ส่งข่าวไปให้แม่รู้ข่าวบ้างเป็นระยะๆ

แต่เนื่องจากพ่อก็เป็นผู้ชาย ซึ่งโดยธรรมชาติก็จะไม่ละเอียดอ่อนในการเลี้ยงลูกเท่ากับแม่อยู่แล้ว มะเหมี่ยวจึงมีความโหยหาความรักความเอาใจใส่อยู่พอสมควร แต่ก็อยู่กับพ่อมาเรื่อยๆ จนเริ่มเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งก็เป็นช่วงที่พ่อย้ายกลับมาทำงานที่กรุงเทพพอดี มะเหมี่ยวจึงขอไปพักที่หอใกล้มหาวิทยาลัย แต่สิ่งที่พ่อไม่รู้ก็คือ มะเหมี่ยวเริ่มมีแฟน และตั้งแต่เทอมที่สองของปี 1 มะเหมี่ยวก็ให้แฟนย้ายเข้ามาอยู่ด้วยในห้องเดียวกัน แต่ด้วยความที่เป็นเด็กที่มุ่งมั่นจะเรียนให้จบได้ปริญญาตรี มะเหมี่ยวจึงประคองตัวจนจบปริญญาตรีได้ ในเวลา 4 ปี เท่ากับเด็กทั่วไป พร้อมๆกับแฟนที่จบพร้อมกัน

สิ่งที่พ่อไม่รู้อีกอย่างหนึ่งก็คือ เงินที่ส่งให้มะเหมี่ยวกินอยู่และใช้ในการเรียนนั้น ได้ถูกปันมาให้แฟนของมะเหมี่ยวด้วย เท่ากับว่ามะเหมี่ยวส่งแฟนเรียนไปด้วย เมื่อจบทำงานแล้ว ต่างคนก็มีสัญญาใจกันลึกๆว่าจะอยู่กันไปเรื่อยๆ แต่ไม่มีการพูดกันจริงจังอะไรนัก เพราะอยู่กันจนชิน ทั้งสองเริ่มเข้าสู่การทำงาน มะเหมี่ยวนั้นได้งานที่เดินทางตลอด รวมถึงต้องไปอยู่ต่างประเทศเป็นระยะๆ รอบละ 2-3 เดือนบ้าง ส่วนแฟนได้งานที่ต่างจังหวัด การเจอกันของทั้งสองคนจึงน้อยลงกว่าแต่ก่อนมาก เหตุการณ์ดำเนินไปแบบนี้เป็นปีสองปี

แล้วก็เป็นไปอย่างที่คาดค่ะ คือแฟนของมะเหมี่ยวมีแฟนใหม่ มะเหมี่ยวจับได้ แต่ฝ่ายชายก็ยืนยันว่าจะเลิกกับคนนั้น จะเลือกมะเหมี่ยว แต่พฤติกรรมจริงคือหายไปนานเป็นปี ระหว่างนั้นมะเหมี่ยวก็ฟูมฟาย ตามไปหาที่ที่ทำงานต่างจังหวัด ทั้งโทรทั้งไปหา แต่ฝ่ายชายก็เมินเฉยมาตลอด มะเหมี่ยวหมดกำลังใจที่จะทำอะไรจนต้องลาออกจากงาน โชคดีที่เป็นคนรู้จักกินรู้จักใช้ จึงมีเงินเก็บจากงานเก่ามากพอสมควร 1 ปีหลังจากลาออก คือเป็นปีแห่งการตามสืบ ตามง้องอน และการเศร้าฟูมฟาย

หลัง 1 ปีผ่านไป ฝ่ายชายก็กลับมาคืนดีด้วย ทำท่าจะดี แต่ดีได้ไม่นานค่ะ ไม่ถึงครึ่งปี ก็มีพฤติกรรมแบบเดิม ต่อมาก็เข้าอีหรอบเดิมคือฝ่ายชายก็หายวนไป มะเหมี่ยวก็เศร้าฟูมฟาย ง้องอนวนไป ต่อมาก็คืนดีวนไป เหตุการณ์แบบนี้ดำเนินมาเรื่อยรวมประมาณ 5-6 ปี ก็ดำเนินมาถึงช่วงฝ่ายชายกลับมาคืนดีรอบสุดท้าย ซึ่งก็ลงเอยด้วยการจัดพิธีแต่งงานเล็กๆในหมู่ญาติ แต่พอแต่งไม่นานก็เริ่มวนเข้าลูปเดิมคือหายไปติดผู้หญิ่งคนใหม่อีกแล้วค่ะท่านผู้ชม คราวนี้มะเหมี่ยวที่เดินมาถึงฟางเส้นสุดท้ายจริงๆ คือปล่อยทิ้งไปเลย ไม่เอาแล้วชีวิตฉันไม่ควรมาจมปลักแบบนี้อีกแล้ว

มะเหมี่ยวปรับเปลี่ยนชีวิตใหม่ เดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัดกะจะลงหลักปักฐาน เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นั่น และที่นั่นเอง มะเหมี่ยวก็เจอผู้ชายที่เหมาะสม และเห็นคุณค่าของมะเหมี่ยวจริงๆ ประมาณถ้าเธอยืนเฉยๆไม่ทำอะไรฉันก็จะรักประมาณนั้นเลย รักครั้งนี้ของมะเหมี่ยว มะเหมี่ยวไม่ต้องพยายามให้เขามารัก ไม่ต้องเสียความเป็นตัวเอง ไม่ต้องหัวหกก้นขวิดเอาใจดูแลเหมือนแฟนคนแรก ตอนนี้มะเหมี่ยวได้แต่งงานกับผู้ชายที่รักมะเหมี่ยวจริงๆแล้ว ชีวิตของมะเหมี่ยวตอนนี้ ที่อัพเดทมา คือมีความสุขมากๆ และให้อภัยตัวเองและแฟนคนแรกอย่างแท้จริง ไม่โกรธ ไม่เกลียด รู้สึกถึงความเป็นเพื่อนเก่าคนหนึ่ง ที่มีแต่ความปรารถนาดีให้ ความรักความลุ่มหลงต่างๆก็ไม่เหลืออยู่ในใจเลย

ชีวิตของมะเหมี่ยวก็คงเหมือนใครๆหลายๆคน ที่ละเลยคุณค่าของตัวเอง เอาความสุขความทุกข์ไปขึ้นไปผูกกับคนอื่น ถ้าไม่มีเขาเราก็ไม่เหลือคุณค่าใด พอมะเหมี่ยวกลับมาตระหนักในคุณค่า และศักยภาพตัวเองว่า สามารถบินเดี่ยว และเลือกชีวิตได้ มะเหมี่ยวก็สามารถมีความสุขด้วยตัวเองแม้ไม่มีใครก็ไม่เห็นเป็นไร คนที่เข้ามาก็เพียงเป็นคนที่เข้ามาให้ชีวิตที่มีความสุข มีความสุขมากขึ้นเหมือนเป็นกำไรที่เพิ่มขึ้น แต่ในอนาคตถ้ามีวันที่ต้องจากกัน มะเหมี่ยวก็มั่นใจว่าตัวเองสามารถยืนหยัดและมีความสุขได้อย่างแน่นอน