สนุกในการเรียนรู้

เวลาพูดถึงการเรียน มีใครเซ็งเหมือนฉันไหมคะ

ฉันนี่แหละค่ะ ตัวดีในด้านความเซ็งในการเรียนรู้ต่างๆตั้งแต่วัยเด็ก ถึงวัยทำงานเลยค่ะ แต่ไม่ได้เป็นตลอดนะคะ เพราะมีข้อยกเว้นบ้าง คือในการเรียนรู้ในสิ่งที่ฉันชอบ ฉันสนใจ เท่านั้นที่จะรู้สึกสนุก จำได้แม่น สงสัยนู่น สงสัยนี่่ เพราะอยากรู้อีก รู้เท่าไหร่ก็รู้สึกยังไม่พอ และเมื่อนำสิ่งที่ได้มาใช้งาน ก็จะเอามาใช้ได้อย่างดีมากกกก (แอบชมตัวเองบ้าง เพราะกำลังฝึกชื่นชมตัวเอง^^)

แต่กลับบางวิชา หรือการเรียนรู้การงานบางอย่าง แม้จะรู้ว่ามันดี แต่ความที่เอาอารมณ์เป็นใหญ่มาตลอด เลยจะยอมให้อารมณ์ครอบงำเสมอๆ เลยเรียนรู้ได้ไม่มากเท่าที่ควร ผลต่อเนื่องก็คือเอามาใช้ได้อย่างกระพร่องกระแพร่ง

ฉันก็สงสัยเสมอๆว่าทำยังไงหนอ ถึงจะเรียนรู้การงาน เรียนรู้ชีวิต ได้ด้วยความสนุก เพราะบางสิ่งที่ฉันไม่ชอบ แต่มันสำคัญมากต่อชีวิต และจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเรียนรู้ ณ นาทีที่เขียนอยู่นี้ ยังแอบงงว่าทำยังไง ก็ขอให้มือพาไปตามแป้นพิมพ์ตามแต่จะนึกได้ ณ เวลานั้นดีกว่า งั้นขอเคาะแป้นพิมพ์ตาม
ใจสั่งมา (พี่เสก โลโซ ก็มา) แล้วกันนะคะ

-ควรเห็นคุณค่าของสิ่งนั้นว่า ถ้าทำแล้วบรรลุวัตถุประสงค์แล้วจะเป็นอย่างไร ผลดีที่จะเกิดขึ้นเป็น
อย่างไร ถ้าไม่บรรลุวัตถุประสงค์แล้วจะเป็นอย่างไร ผลเสียที่จะเกิดขึ้นเป็นอย่างไร
อุ้ย แค่คิดก็ขนลุกแล้วค่ะว่า ถ้าไม่บรรลุวัตถุประสงค์ชีวิตที่ตั้งไว้ก่อนตาย น่ากลัวจริงๆค่ะ

-ไม่เคร่งเครียด ทำด้วยใจสนุกที่จะเรียนรู้สิ่งนั้น และไม่กังวลผลลัพธ์ โฟกัสที่การกระทำ ไม่ใช่โฟกัส
ผลลัพธ์
เขียนถึงตรงนี้ จริงด้วยค่ะ ฉันมักมองสิ่งที่เรียนรู้ เป็นยาขม เลยฝืนใจเรียนรู้ ฝืนใจทำ เพราะรู้สึกว่า
“ต้อง” เรียนรู้ “ต้อง”ทำ และฉันมักไปโฟกัสแต่ผลลัพธ์ ไม่ใส่ใจ ไม่ตั้งใจตอนลงมือทำเท่าที่ควร
แต่เข้าใจผิดคิดว่าตัวเองตั้งใจทำ ถ้าฟังเสียงในหัวตอนนั้นจะรู้เลยว่า มีแต่คำบ่น และรำพึงแต่ว่า
เมื่อไหร่จะเสร็จสักที

-ไม่ตัดสินตัวเอง และสิ่งที่กำลังเรียนรู้/กำลังทำนั้น ทั้งก่อน ขณะ และหลัง
ตอนเด็กๆ ฉันตัดสินและเชื่อว่าตัวเองไม่มีหัวศิลปะ คิดดูสิคะ งานศิลปะยังลอกของพี่สาวแบบเป๊ะๆ
แต่มีวันหนึ่งตอนม.5 หมดมุก หาคนลอกไม่ได้ เลยวาดเอง ตามที่ปิ๊งในหัวขึ้นมาว่าอยากจะสื่อสาร
ว่า ชีวิตนี้สุดท้ายก็ไม่มีอะไร และภาพก็อยู่ในหัวเรียบร้อย เลยวาดตามภาพที่คิดได้ คือภาพปีก
ผีเสื้อติดใยแมงมุม โดยไม่มีทั้งตัวผีเสื้อ(ถูกกินไปแล้ว) และตัวแมงมุม ให้เห็น และใส่สีอย่างสะใจ
ปรากฎว่าครูได้เอางานนั้นมาโชว์หน้าห้องด้วย (คิคิ) เลยยังจำได้แม่นจนบัดนี้เลยค่ะ สรุปว่างานนั้น
ทำด้วยความสนุกเพลิดเพลิน มีความสุข อยู่กับปัจจุบันไม่กังวลว่าผลจะเป็นอย่างไร งานกลับออก
มาดีเฉยเลย

-ไม่ต้องสนใจการตัดสินของคนอื่น
แต่รู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เพื่ออะไร

-ทบทวนความสำเร็จที่เกิดขึ้นแล้ว เพราะบางทีผลลัพธ์สุดท้ายที่ต้องการมันใหญ่เกินไป ตอนนี้อาจ
ยังห่างไกล ก็อาจต้องตรวจสอบความก้าวหน้า ในขณะนั้น กับตอนเริ่มต้น ว่ามาไกลแค่ไหนแล้ว ก็จะ
มีกำลังใจที่จะเรียนรู้ และทำต่อไปได้
เขียนถึงข้อนี้ ก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่า โอ วันนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เราได้เรียนรู้อะไรมากมายเลยนี่นา มี
ความสำเร็จเล็กๆน้อยๆเต็มไปหมดเลย แต่เราไปโฟกัสแต่เรื่องใหญ่ๆ เราเลยไม่เห็นความสำเร็จที่
เล็ก หรือเป็นนามธรรม เลยพาลคิดว่าเราอยู่ที่เดิมหรือถอยหลัง
อืม เขียนบทความนี้ดีอย่างนี้เอง ได้ทบทวนตัวเองไปในตัว ดีจังค่ะ

-ย่อยวัตถุประสงค์เป็นขั้นตอนย่อย ที่ท้าทาย แต่ไม่ท้าทายเกินไปจนทำไม่ได้ แล้วจะท้อก่อน และก็
จะล้มเลิกในที่สุด
ฉันมักจะตกหล่มตรงนี้ล่ะค่ะ เพราะไม่มองตามความเป็นจริง ไปตั้งเป้าหมายไว้ซะสูงคือตั้งแบบว่า
กระโดดก้าวเดียวจะให้ถึงผลลัพธ์สุดท้ายเลย พอไม่สำเร็จเลยล้มเลิก กี่อย่างต่อกี่อย่างก็ไม่รู้
อืม เค้าเรียกว่าไม่พอเพียง ไม่พอเหมาะพอสม กับความเป็นจริงนี่เอง แหะ

แต่ฉันว่าสรุปสุดท้าย สิ่งที่ฉันขาดมากกก คือ ฉันขาดความสนุก (ในการเรียนรู้ ในการกระทำ)นั่นเอง เพราะเมื่อทบทวนตัวเองแล้ว ฉันว่าฉันไม่สนุกในการเรียนรู้ การทำการงานมานานแล้ว ทำเพราะความรับผิดชอบมากกว่า ทำให้รู้สึกว่ามันแห้งแล้งมากๆ

ฉันว่าความสนุกมันทำให้เกิดแรง มีความสุข และเบาสบายเหนือการตัดสินใดๆทั้งจากตัวเองและผู้อื่น
งั้นต่อไปฉันจะเพิ่มความสนุกลงไปในการเรียนรู้ และการกระทำดีกว่าค่ะ แค่คิดก็ฟินแล้ววววว 555